วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

7 อาชีพ ที่จะทำให้คุณ หุ่นดี โดยอัตโนมัติ

7 อาชีพ ที่จะทำให้คุณ หุ่นดี โดยอัตโนมัติ

เป็นเวลาหลายปีดีดัก ที่นิตยสารหลายเล่มได้ให้คำแนะนำไปมากมายหลายข้อ สำหรับสาวออฟฟิศที่อยากรูปร่างดีโดยไม่ต้องเข้ายิมให้เสียเวลา ทั้งการนั่งบนลูกบอลกลมๆ แทนเก้าอี้ หรือการยกขวดน้ำเปล่าโพลาริสขนาดลิตรแทนดัมเบล


ไอเดียต่างๆ เหล่านี้ใช่ว่าไม่เวิร์คเพียงแต่เรามีตัวอย่าง 10 อาชีพที่อเมริกาเขาสำรวจมาแล้วว่าสาวๆ สามารถทำงานประจำหรือเป็นจ๊อบเสริมได้โดยผลคือหุ่นดีขึ้นแถมรวยขึ้นอีกต่าง หาก

1. สาวงานศิลป์
จะ เป็นจิตรกรรมฝาผนัง จิตรกรรมเพนท์ติ้งบนผืนผ้าใบแบบจิตรกร วาดภาพเหมือน ภาพแอ็บสแทร็ค หรืออะไรก็ตาม หากว่าพอมีฝีมือด้านนี้ก็ค่อยๆ ฝึกปรือไป เพราะลูกค้าบางคนอาจให้ราคางามชนิดที่วาดภาพเดียวเป็นกำไรชีวิต (ไปเป็นปี) เป็นความภาคภูมิใจได้อีกทาง
หุ่นดีที่ตรงไหน: ระหว่างสร้างสรรค์งานคุณจะเคลื่อนไหวบอดี้โดยไม่รู้ตัว ทั้งหยิบแปรงพู่กันไปล้าง การยกวัสดุต่างๆ มาตั้งเป็นพร็อพส์เป็นแบบ ยิ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทาสี (ที่ไม่ใช่แรงงานก่อสร้าง) จุดสำคัญอยู่ที่การเคลื่อนไหวช่วงแขน ที่จะทำให้มีกล้ามแขนกระชับ ไม่หย่อนคล้อย แถมยังทำให้ช่วงไหล่แข็งแรงด้วย
รายรับโดยเฉลี่ยต่อปี: 31,603 ดอลลาร์สหรัฐฯ

2. สาวแลนด์สเคป
ใน ที่นี้ไม่อยากใช้คำว่าเป็นสาวทำสวน เพราะงานไม่ได้มีแค่ตัดแต่งสนามหญ้าหน้าบ้าน หรือตัดแต่งกิ่งไม้ให้อยู่ในสภาพสวยงามเสมอ กิจกรรมที่ว่านี้ยังต้องเกี่ยวข้องกับเพราพันธุ์ต้นไม้ให้ถูกวิธี รวมถึงการแสดงถึงงานศิลป์ในสวนด้วยการจัดวาง องค์ประกอบเก๋ๆ เลือกของแต่งสวนงามๆ มาใช้ด้วย
หุ่นดีที่ตรงไหน: เวลา กิจกรรมเกี่ยวข้องกับการทำสวน การปลูกไม้ดอกไม้ประดับเหล่านี้ แน่นอนว่าจะต้องก้มๆ เงยๆ ยกของ ขนของ ไหนจะต้องทำงานเอาท์ดอร์ ทนแดด ทนฝน ฝึกความอดทนทั้งกายและใจแล้วอย่างนี้หุ่นเฟิร์มๆ จะไปไหนเสีย
รายรับโดยเฉลี่ยต่อปี: 24,191 ดอลลาร์สหรัฐฯ

3. พี่เลี้ยงเด็ก
หมาย ถึง การรับดูแลเด็กทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะเด็กที่ยังละอ่อน อาจต้องช่วยทำความสะอาดร่างกายเด็ก การคอยช่วยดูแลเด็กในการทำกิจกรรมต่างๆ ตามแต่เพศหรือวัยของเด็กคนนั้นด้วย
หุ่นดีที่ตรงไหน: คง เคยได้ยินคุณแม่หลายคนพูดถึงเคล็ดลับที่ทำให้ผอมเร็วหลังคลอดว่า “เลี้ยงลูกเองค่ะ” นั้นเป็นเพราะเด็กทุกวัยล้วนมีความต้องการที่ทำให้คุณวิ่งวุ่นได้ตลอดเวลา ถ้าเบบี๋มากก็ต้องโยเยให้คุณทิ้งงานที่ทำมาเอาใจแทบทุกครั้งชั่วโมง หากโตขึ้นมาหน่อยก็จ้องคอยวิ่งตามระวัง ป้อนข้าว ป้อนน้ำ เล่นเกม ไปจนถึงระวังภัยจากความซุกซน ฯลฯ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผอมยังไงไหว
รายรับโดยเฉลี่ยต่อปี: 17,630 ดอลลาร์สหรัฐ

4. ช่างภาพอิสระ
การ ถ่ายภาพต้องใช้การเคลื่อนไหวร่างกายมากเอาการ โดยเฉพาะงานถ่ายภาพวงการบันเทิงอย่างกองถ่ายทำภาพยนตร์ รวมถึงงานโปรดักชั่นโฆษณาทางทีวี ฯลฯ ทำงานวันละแค่ไม่กี่ชั่วโมงอาจทำให้คุณเผาผลาญแคลอรีได้มากมายโดยไม่รู้ตัว (อีกแล้ว)
หุ่นดีที่ตรงไหน: งาน แบบนี้ทำเอาคุณแทบจะไม่ได้พัก ไหนจะเดินหาโลเคชั่น ขนอุปกรณ์ พร็อบส์ต่างๆ ไม่นับการเดินเหินตลอดการทำงานเพื่อนเช็คผลงานหน้าจอมอนิเตอร์/ คอมพิวเตอร์ เดินไปสื่อสารกับนางแบบหรือทีมงาน ฯลฯ บู๊สุดๆ แบบนี้จะเป็นพะโล้ได้อย่างไร
รายรับโดยเฉลี่ยต่อปี: 32,734 ดอลลาร์สหรัฐ

5. สาวนักปั่น
ส่วน ใหญ่พนักงานที่เมสเซนเจอร์หรือพนักงานรับส่งเอกสารในบ้านเรามักเป็นผู้ชาย และใช้มอเตอร์ไซด์เป็นพาหนะ แต่ในเมืองใหญ่ที่ออฟฟิศอยู่กันเป็นบล็อคๆ แถมการจราจรติดขัดเสียเหลือเกิน การใช้จักรยาน ช่วยย่นระยะเวลาได้มาก และเป็นเหตุให้สาวๆ ก็ทำงานนี้ได้สบาย
หุ่นดีที่ตรงไหน: การ ถีบจักรยาน ท่ามกลางสภาพอากาศดีๆ แจ่มๆ จะช่วยให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวส่วนกล้ามเนื้อขานำมาซึ่งตำแหน่งเจ้าแม่น่อง ทองเจ้าของขาอ่อนชวนน้ำลายหก พ่วงไปกับตำแหน่งผู้หญิงที่มีอัตราการเต้นของหัวใจเพอร์เฟ็คท์ที่สุดคนหนึ่ง ไปครองแบบสบายๆ
รายรับโดยเฉลี่ยต่อปี: 21,050 ดอลลาร์สหรัฐ

6. สาวรักศึกษา
อัน นี้ได้หมายความว่าจะให้ไปเรียนเองแต่หมายถึงสาวๆ ที่มีหัวศิลป์รับทำรายงาน เย็บเล็บ เข้าปก ยิ่งในช่วงฤดูที่ นิสิตนักศึกษากำลังง่วนเชียงกันทำรายงานส่งอาจารย์ ว่ากันว่าอาชีพให้มีรายรับเป็นกอบเป็นกำถึงขั้นตั้งตัวได้เลยทีเดียว ถ้าเก๋หน่อยมิใช่เฉพาะแค่รายงาน แต่ยังรวมถึงรับจัดทำงานสิ่งพิมพ์ต่างๆ ทั้งนามบัตร การ์ดแต่งงาน บัตรอวยพรด้วย
หุ่นดีที่ตรงไหน: แค่ ออกแรงยกกระดาษเป็นตั้งสุดสัปดาห์ก็น่าจะเห็นผลทันตาบริเวณกล้ามหน้าท้อง กล้ามเนื้อแผ่นหลัง กล้ามแขน กล้ามขา แต่อย่าเพิ่งหน้ามืดไปก่อนแล้วกัน
รายรับโดยเฉลี่ยต่อปี: 25,570 ดอลลาร์สหรัฐ

7. สาวรักธรรมชาติ
อัน นี้ขึ้นอยู่กับถิ่นฐานและความถนัดว่างานคุณเลือกทำเกษตรกรรมแบบไหน อย่างเช่นเกษตรกรแบบทั่วไป ก็จะต้องเลี้ยงสัตว์ในฟาร์ม และบางครั้งอาจต้องปลูกพืชผักเป็นฟาร์ม หรือถ้าทำฟาร์มโคนม ก็จะต้องรีดนมวัว ให้อาหารวัว พรวนดิน เก็บเกี่ยวพืชหรือผลิตผลจากการทำเกษตรกรรม ข้อนี้เหมาะมากถ้าใครอยู่ในต่างจังหวัด แต่ถ้าอยู่เมืองกรุงที่ผืนดินแพงพอๆ กับทองคำอาจใช้ความคิดสร้างสรรค์ทำเกษตรฉบับจิ๋ว อาทิ เพาะพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับน่ารักๆ หรือเพาะพันธุ์น้องหมาขายไปตามแต่พื้นที่จะอำนวย
หุ่นดีที่ตรงไหน: งาน นี้ต้องอาศัยความอึดเอาการอยู่ ใช้ทั้งกำลังขา แขน บางครั้งอาจต้องใช้เครื่องจักรกลเข้าทุ่นแรง เผลอๆ ทำๆไป คุณอาจเป็นสาวที่รู้เครื่องยนต์กลไก การใช้อุปกรณ์แมนๆ ทัดเทียมชายอกสามศอก ถือว่าเป็นงานที่ต้องออกกำลังกายทั้งตัวก็ว่าได้
รายรับโดยเฉลี่ยต่อปี: 23,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ



อย่างไรก็ดี อย่าลืมที่บอกว่าอาชีพเหล่านี้เขามีการสำรวจจากเมืองนอกเมืองนา ฉะนั้นดูไว้เป็นไอเดีย แล้วปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์จะปลอดภัยได้ผลกว่านะสาวๆ




Career Focus No.606 (1 MAY 2008)

เรื่องจาก นิตยสาร สุดสัปดาห์

http://www.sudsapda.com

หุ่นดี...ทานอย่างไร?

ขนม คุกกี้ ของว่าง อาหาร กิน

หุ่นดี...ทานอย่างไร?

เรามักจะได้ยินเสียงครวญจาก สาวอ้วน อยู่บ่อยๆว่า คนผอมหุ่นดี นั้น เกิดมามีบุญ ทานอะไรก็ทานได้ ไม่ต้องคอยเป็นกังวล ว่าน้ำหนักจะขึ้น จึงอยากให้ สาวอ้วนง่าย ทำความเข้าใจเสียใหม่เพราะความจริงแล้วไม่ใช่เธอเหล่านั้น ทานอะไรก็ไม่อ้วน แต่อาหารที่เธอทานคือ สิ่งที่เธอเลือกอยู่ในใจแล้ว ว่าสิ่งไหนควรและสิ่งไหนไม่ควรทาน
วิธีการทานอาหารแบบที่เรียกว่า เลือกรับประทานเพื่อรักษาหุ่น หรือลดน้ำหนัก มีอยู่หลากหลายวิธีด้วยกัน ส่วนจะเป็นเรื่องง่ายหรือยาก คงต้องขึ้นอยู่กับความตั้งใจของแต่ละคนด้วย เราลองมาดูซิ ว่ามีวิธีไหนบ้าง



1.ควรทานอาหารเป็นมื้อๆ

คือมื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อเย็น (ก่อน 6 โมงเย็น) ต้องทานอาหาร 1 จาน ต่อ 1 มื้อเท่านั้น แต่หากทนไม่ไหวลองหาชาเขียวร้อนๆ ดื่มแก้หิวจะดีกว่า


2.ไม่ควรทานอะไร ขณะที่กำลังทำกิจกรรมอื่นๆอยู่

เช่นกำลังอ่านหนังสือ ทำงาน เล่นอินเตอร์เน็ต ดูทีวี หรือขณะนั่งรถ เพราะการทำเช่นนี้บ่อยๆ จะทำให้ปริมาณแคลอรีมากเกินกว่าความจำเป็น และที่แย่ไปกว่านั้น คือคุณจะอ้วนแบบไม่รู้ตัว



3.เลือกรับประทานอาหารให้พลังงานต่ำ

อย่าปล่อยใจ หรือให้ผู้ใดท้าทายคุณ ด้วยอาหารที่มีไขมันสูง เช่นข้าวมันไก่ ข้าวขาหมูเป็นอันขาด



4.เวลาทานอาหาร ควรรับประทานช้าๆ

เคี้ยวให้ได้ 10 ครั้งต่อคำ



5.หากหิวมากๆ ควรสั่งอาหารเพียง 1 อย่าง

อย่าสั่งอาหารมาพร้อมกันหลายๆอย่างเพราะ อาหารจานเดียวก็ทำให้คุณอิ่มได้เช่นกัน



6.สำรวจอาหารในจานว่าเป็นประเภทใด

มีเนื้อสัตว์และผัก มากน้อยแค่ไหน ทางที่ดีควรทานผักให้หมดจานก่อน แล้วค่อยเริ่มทานเนื้อสัตว์ หรือเขี่ยเนื้อสัตว์ออกนอกจานไปเลย



7.หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง

หรือแกงกะทิ รวมถึงน้ำอัดลมทุกชนิด



8.หากคุณชอบดื่มชา, กาแฟ, โอวันติน ให้ดื่มเพียงวันละ 1 ถ้วย

หรือดื่มแบบไม่ใส่น้ำตาลเลย หรือถ้าอยากดื่มนม ไม่ว่าจะเป็นนมพร่องมันเนย นมเปรี้ยว ควรดื่มก่อนเข้านอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง



9.เบเกอรี่

เป็นสิ่งที่สาวๆชอบ แต่ถ้าอยากผอม ก็ไม่ควรทานเลย หรือทานได้สัปดาห์ละครั้ง และครั้งละชิ้นสองชิ้นเท่านั้น



10.หลีกเลี่ยงการทานลูกอม

เพราะลูกอมชนิดต่างๆ ล้วนมีน้ำตาลเป็นส่วนผสม



11.ทานผลไม้มากๆ

ยกเว้นผลไม้ที่มีรสหวาน ให้พลังงาน และปริมาณน้ำตาลสูง เช่นทุเรียน เงาะ ละมุด ลำไย ขนุน



12.ดื่มน้ำสะอาด

อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว



อาจจะหนักหนาสาหัสไปบ้าง สำหรับคนที่เคยชินแบบกินจุบกินจิบมาก่อน แต่อย่าลืมว่า หากคุณทำได้ตามคำแนะนำข้างต้น อีกไม่นาน หุ่นของคุณจะสวยงามขึ้น และถ้าต้องการให้เห็นผลเร็วขึ้น การออกกำลังกายควบคู่กันไป จะยิ่งช่วยคุณได้...สวยวันสวยคืนนะคะ

ที่มาจากหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก

รีดแคลอรีส่วนเกิน

รีดแคลอรีส่วนเกิน

ความ อ้วนกับสาว ๆ มักเป็นของ (ไม่คู่กัน) โดยเฉพาะวัยทีนทั้งหลาย จะกังวลกับเรื่องรูปร่างเป็นพิเศษ หลายคนถึงขนาดอดอาหารจนหิว หรือไม่ก็โหมออกกำลังกายจนหนักหน่วง แต่รู้หรือไม่? อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดแคลอรีส่วนเกินนั้น มาจากพฤติกรรมประจำวันของเรานี่เอง

มีวิธีลดแคลอรีไม่พึงประสงค์มาฝาก ขอบอกว่าง่าย ๆ แค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเท่านั้นเอง

1.ไม่ควรงดอาหาร ไม่ว่าจะมื้อใดมื้อหนึ่ง เพราะจะทำให้หิวและทานมื้อถัดไปมากขึ้น ที่สำคัญไม่ควรงดอาหารเช้า เพราะอาหารเช้าจะช่วยให้ทานอาหารมื้ออื่น ๆ ได้น้อยลง


2.ทานอาหารให้อิ่มพอดี ไม่ควรทานจนรู้สึกอึดอัด หรือหลายคนเสียดายอาหารที่เหลือ แต่นั่นแหละ คือ ตัวการเพิ่มแคลอรี ทางที่ดีควรกำหนดปริมาณอาหารที่จะรับประทานแต่ละมื้อให้พอเหมาะ โดยการตักแต่พอดี และระหว่างทานควรเคี้ยวช้า ๆ จะทำให้ทานอาหารได้น้อยลง และรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น

3.กินน้ำ / ลูกอม แทนขนม ในระหว่างวันหากรู้สึกหิว ลองเปลี่ยนจากการทานขนมเป็นน้ำเปล่า หรือลูกอมแทน ในส่วนของลูกอมนั้นมี 20 แคลอรี ช่วยให้หายหิวได้ประมาณ 20 นาที แต่! ไม่ควรทานเป็นของจุกจิก เพราะความหิวหายไปจริง แต่ฟันผุอาจมาเยือนแทน

4.ใช้บันไดแทนลิฟต์ หากห้องเรียนหรือห้องทำงาน อยู่บนชั้นที่ไม่สูงมากก็ควรใช้บันได หรือหากอยู่บนชั้นสูง ๆ ควรออกจากลิฟต์ก่อนถึงชั้นที่อยู่ประมาณ
2 ชั้น แล้วชั้นที่เหลือใช้เดินขึ้นบันไดแทน เพราะการเดิน 5-10 นาที เป็นวิธีช่วยเผาผลาญแคลอรีระหว่างวันได้ดี

5.พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการนอนดึกจะยิ่งทำให้อยากทานของจุกจิก ตรงกันข้ามหากได้นอนเต็มที่ ร่างกายจะสามารถเพิ่มระบบเผาผลาญได้มากขึ้นจากปกติถึง
40%

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมข้างต้น มีส่วนช่วยลดแคลอรีส่วนเกินที่ไม่พึงประสงค์ของสาว ๆ ได้อย่างดี ที่สำคัญเป็นวิธีไดเอทที่ไม่ต้องอด ทั้งยังรักษาสมดุลให้ร่างกายแข็งแรง สดใสอีกด้วย.




ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์

อาหารคู่ใจนักไดเอท

อาหารคู่ใจนักไดเอท

สลัด อาหาร

อาหาร ที่ให้พลังงานและสารอาหารสูง แถมยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดด้วย จึงเหมาะที่นักไดเอทจะพกไว้เป็นเสบียงคู่ใจเพื่อต่อสู้กับความหิวที่จะมา เยือนเวลาเราลดน้ำหนัก


1.
ลูกเกด

ลูก เกดมีแมงกานีสที่ช่วยให้ระบบการเผาผลาญอาหารของเราทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้การลดความอ้วนได้ผลและระบบย่อยก็ทำงานเป็นปกติ ส่วนระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของสาวๆ ที่กำลังไดเอทนั้น เจ้าลูกเกดก็จะช่วยให้เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ทำให้ไม่หิวบ่อย จะได้ไม่ต้องกินอะไรเพิ่ม

apple แอปเปิ้ล ผลไม้

2. แอปเปิ้ล
จะ ไดเอทกี่ทีก็ต้องมีแอปเปิ้ล เพราะมันเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยอาหารมาก กินแล้วหนักท้องดีนัก แถมยังไม่หวานจัด แคลอรีต่ำ และมีคุณค่าอาหารเพียบ ดีขนาดนี้ แม้แต่เวลาที่ไม่ไดเอท ก็ไม่ควรมองข้ามแอปเปิ้ลหรอกนะ



3. ลูกพรุน
ลูก พรุนคือสุดยอดแหล่งรวมวิตามิน กินแล้วช่วยให้ผิวสวย เหมาะสำหรับนักไดเอทที่มักจะมีผิวพรรณเหี่ยวแห้ง หน้าตาซีดเซียว นอกจากนี้ลูกพรุนยังทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ หมดปัญหาเรื่องหน้ามืดตาลายและทำให้ระบบขับถ่ายทำงานดี น้ำหนักจะได้ลดลงสมใจ


4. ข้าวกล้องและธัญพืชไม่ขัดขาว
ข้าวกล้อง จะช่วยให้สาวๆ อิ่มนาน เพราะมันมีเส้นใยสูงมาก ทำให้หนักท้อง ตัดปัญหาเรื่องอยากกินของว่างหรือของจุกจิกทิ้งไปได้เลย ส่วนสารอาหารที่อุดมสมบูรณ์มากๆ ในข้าวกล้องก็ดีต่อสุขภาพของเรา ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดี หมดปัญหาอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรง

อาหาร ทะเล กุ้ง
5. อาหารทะเล
อาหาร ทะเลในที่นี้ไม่ได้หมายถึง หอยนางรม หรือปลาหมึกที่มีโคเลสเตอรอลสูง แต่ควรจะกินปลาตัวเล็กๆ ปลาทูน่า แซลมอน ปลาซีดีนเท่านั้น สารซีลีเนียม แมกนีเซียม แคลเซียม และสังกะสี ในปลาพวกนี้จะช่วยรักษาความสมดุลของระบบประสาท คุณจะได้ไม่กลายเป็นน้องเอ๋อ สมองเสื่อม คิดอะไรไม่ออกระหว่างที่ลดความอ้วนไง


ถั่ว

6. ถั่ว
คน ที่ลดน้ำหนักมักจะอารมณ์ไม่ค่อยดี หงุดหงิดงุ่นง่านเห็นช้างเท่าหมูได้ทั้งวัน แต่ถ้าได้กินถั่วจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้ เพราะร่างกายจะได้รับวิตามินบีและแมกนีเซียม ซึ่งช่วยการทำงานของระบบประสาทให้เป็นปกติ แค่นี้ก็ไม่ต้องกลายเป็นแม่หญิงสวยประหารประจำกลุ่มแล้ว

ที่มา..spicy

ไดเอท ง่ายๆ สไตล์ สาวญี่ปุ่น

ข้อมูลสรุปนี้ไม่พร้อมใช้งาน โปรด คลิกที่นี่เพื่อดูโพสต์

กะหล่ำปลีลดความอ้วน

กะหล่ำปลีลดความอ้วน

เมื่อไม่นานมานี้ สาวๆ ที่กำลังลดความอ้วนคงได้ยินข่าวของยาลดความอ้วนที่อันตรายถึงชีวิต

นี่เป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่งว่าการลดความอ้วนแบบธรรมชาตินั้นปลอดภัยที่สุด วันนี้เรามีผักแสนอร่อยที่ช่วยควบคุมน้ำหนักมาแนะนำค่ะ

ผัก ที่ว่านี้คือกะหล่ำปลีแบบบ้านๆ ของเรานี่เอง เพราะล่าสุดมีงานวิจัยสนับสนุนว่ากะหล่ำปลีมีกรดทาร์ทาริก ช่วยยับยั้งขัดขวางไม่ให้น้ำตาลและแป้งกลายไปเป็นไขมัน จึงช่วยลดน้ำหนักได้

วิธีปรุง อาจรับประทานเป็นผักสลัด เพราะกะหล่ำปลีดิบยังมีวิตามินซีสูง หากปรุง ควรปรุงด้วยการนึ่ง อบไมโครเวฟ หรือผัด จะช่วยคงคุณค่าของสารอาหารไว้ได้ดีที่สุด

อย่างไรก็ตามควรรับประทานแต่พอเหมาะ เพราะการรับประทานกะหล่ำปลีมากเกินไปอาจทำให้มีปัญหาเรื่องต่อมไทรอยด์ได้

เย็นนี้ลองทำอาหารใส่กะหล่ำปลีกินเองดูดีไหม

ที่มาจาก ชีวจิตออนไลน์

สูตรอาหารลดความอ้วน

สูตรอาหารลดความอ้วน

สูตร อาหาร ลดความอ้วน  อ้วน

สูตรที่ 1
สูตร อาหารไฮโซค่ะ 3 วัน 3 กก. อึม เป็นไง อ่านแล้วน่าสนใจดีไม๊คะ วันละ 1 กก. แบบนี้ 1 อาทิตย์ก็ผอมเพรียวสมใจอยาก แถมรายการอาหารยังไม่โหด เหมือนซุปผักเมื่อกี้อีกด้วย ได้ทานขนมปังอีกตะหาก สวรค์ของคนลดน้ำหนักเลยค่ะ แต่ขอบอกค่ะว่าแต่ละวันอาหารตามสูตรหายากมากกก แบบออกแนวไฮโซ บ้านๆ อย่างเราไม่ค่อยซื้อทานหรอกค่ะ สูตรมีดังนี้นะคะ

วันที่ 1
เช้า
กาแฟ หรือ ชา ไม่ใส่น้ำตาลและครีมเทียม 1 ถ้วย
ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น (โฮลวีทได้ก็จะดีมาก)
ถั่ว baked bean 120 กรัม (ถั่วในซอสมะเขือเทศ)
ส้ม 1 ลูก

กลางวัน กาแฟ หรือชา 1 ถ้วย
ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
ปลาทูน่า 120 กรัม

เย็น ถั่วฝักยาวต้ม 120 กรัม
บีทรูท หรือ แครอท ต้ม 120 กรัม
แฮมไก่ 2 แผ่น ไก่เท่านั้นนะคะ
ไอศกรีม วานิลา 1 ถ้วยเล็ก



วันที่ 2
เช้า กาแฟหรือ ชา 1 ถ้วย
ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
ไข่ต้ม 1 ฟอง
กล้วยหอม 1/2ผล

กลางวัน แครกเกอร์แบบเค็ม 5 แผ่น
ชีส low fat 1 แผ่น (อาจเปลี่ยนเป็น โยเกิร์ตรสธรรมชาติ)

เย็น บล๊อคโครี่ กับแครอท ต้ม อย่างละ 120 กรัม
แฮมไก่ 2 แผ่น
กล้วยหอม 1/2ผล
ไอศกรีม วานิลา 1 ถ้วยเล็ก



วันที่ 3
เช้า กาแฟหรือ ชา 1 ถ้วย
แครกเกอร์ เค็ม 5 แผ่น
ชีส low fat 1 แผ่น
แอ๊ปเปิ้ล 1 ผล

กลางวัน กาแฟหรือชา 1 ถ้วย
ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
ไข่ต้ม 1 ลูก

เย็น ดอกกะหล่ำต้ม กับ แครอท อย่างละ 120 กรัม
ทูน่า 120 กรัม
แตงไทย หรือ แคนตาลูป 1 ชิ้น
ไอศกรีมวานิลา 1 ถ้วยเล็ก


สูตรที่ 2
เห็น เค้าบอกว่าเป็นสูตรพระราชทาน จากสมเด็จพระเทพฯ สูตรน่าสนใจมากค่ะ และยังบอกอีกว่าสามารถลดน้ำหนักได้ อาทิตย์ละ 9 กก. ค่ะ เห็นสูตรครั้งแรกดิฉันจดอย่างเร็วเลย ถ้าลดได้ขนาดนี้ละล่ะก็ ต่อให้ทานผิดพลาดยังไง อย่างต่ำคงลดได้ 3 กก. แหละค่ะ อาหารก็หาง่ายๆ เหมือนเราทานทุกวันนี่ล่ะค่ะ

วันที่ 1
เช้า...น้ำผลไม้คั้นหรือโยเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน... ไข่ต้ม 2 ฟอง
เย็น... สลัดผัก

วันที่ 2
เช้า... น้ำผลไม้คั้นหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย
กลางวัน...ไข่ต้ม 2 ฟอง
เย็น...โยเกิร์ต 1 ถ้วย

วันที่ 3
เช้า... กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย หรือโยเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน... เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม (เนื้อ,หมู)
เย็น... สับปะรด 1 ชิ้น

วันที่ 4
เช้า...น้ำผลไม้คั้น หรือกาแฟดำและขนมปัง 1 แผ่น
กลางวัน... สลัดผักและไก่ย่าง 1 ชิ้น
เย็น...โยเกิร์ต 1 ถ้วย

วันที่ 5
เช้า... น้ำผลไม้คั้นหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย
กลางวัน... ส้มตำและไก่ย่าง 1 ชิ้น
เย็น... สลัดผัก

วันที่ 6
เช้า... น้ำผลไม้คั้นหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย
กลางวัน... ปลานึ่งหรือปลาเผาไม่จำกัด
เย็น... นมสด 1 แก้ว(พร่องมันเนย)

วันที่ 7
เช้า... ข้าว 1 ทัพพีและเนื้อ 1 ชิ้นหรือไข่ต้ม 1 ฟอง
กลางวัน... เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม(เนื้อ,หมู)
เย็น... สับปะรด 1 ชิ้น

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก น้องเนย